การเทรดมีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละรูปแบบมีความเหมาะสมและข้อดี-ข้อเสียต่างกัน1 นี่คือสรุปของกลยุทธ์การเทรดที่คุณอาจสนใจ:

Day Trading (การเทรดในวัน): ซื้อและขายในวันเดียว ไม่ถืออเดอร์ข้ามคืน มีความถี่ในการเทรดสูง ต้องติดตามตลาดตลอดเวลา ข้อดีคือไม่เสี่ยงในการกระโดดของราคาในวันถัดไป แต่ต้องใช้พลังงานและตัดสินใจรวดเร็ว2.
Trend Following (การเทรดตามแนวโน้ม): ซื้อขายตามแนวโน้ม รอให้ราคาเลือกทิศทางก่อน มีโอกาสกินกำไรสูง แต่ต้องระมัดระวังกับราคาที่อาจหมดแนวโน้ม2.
Momentum Trading (การเทรดตามโมเมนตัม): เล่นตามโมเมนตัมของราคา รอให้ราคาเลือกทิศทางก่อน มีความถี่ในการเทรดปานกลาง มีโอกาสกินกำไรและขาดทุนเท่าๆกัน2.
Swing Trading (การเทรดย่อซื้อ): รอให้ราคาย่อตัวก่อนซื้อ แล้วรอราคาเด้งค่อยขาย มีความถี่ในการเทรดปานกลาง สามารถกินกำไรเป็นรอบๆ แต่ต้องระมัดระวังกับราคาที่อาจเปลี่ยนทิศทาง2.
Scalping (การเก็บกำไรในระยะเวลาสั้นๆ): ซื้อขายในระยะเวลาสั้น มีความถี่ในการเทรดสูง สามารถกินกำไรเร็ว แต่ต้องระมัดระวังกับค่าธรรมเนียมในการเทรด2.
Reversal Trading (การหาจุดกลับตัวของราคา): หาจุดที่ราคากำลังเปลี่ยนทิศทาง มีโอกาสกินกำไรสูง แต่ต้องระมัดระวังกับการตัดสินใจในช่วงเวลาที่ยาก2.
การพัฒนากลยุทธ์การเทรดที่ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องอาศัยความทุ่มเทของคุณครับ

Facebook Comments

BCF Theme By aThemeArt - Proudly powered by WordPress.
BACK TO TOP