กลยุทธ์ และสไตล์การเทรดของ ปู่ William O’Neil
((มรดกล้ำค่าตลอดกาล))
กลยุทธ์ และสไตล์การเทรดของ ปู่ William O’Neil
ขอบคุณสำหรับแรงบันดาลใจครับ
ถ้าไม่ได้รู้จักงานของปู่ ผมคงไม่ได้ยืนหยัดและอยู่รอดได้นานขนาดนี้แน่
.
10 ลักษณะของคนที่ประสบความสำเร็จ ในมุมมองของปู่วิลเลียม โอนีล
1) มีความคิดเชิงบวก. พวกเขาคิดว่าตัวเองต้องประสบความสำเร็จ, ไม่ล้มเหลว,โดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์ที่ยากลำบาก
2) ตัดสินใจอย่างมีสติเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากำลังติดตาม, และวาดแผนการเฉพาะเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
3) ไม่หยุดเรียนรู้
4) มีความอดทนและทำงานหนัก
5) ชอบวิเคราะห์รายละเอียดและหาข้อเท็จจริง
6) โฟกัส, ไม่ให้คนหรือสิ่งอื่นใดทำให้พวกเขาไขว้เขวจากเป้าหมาย เรียนรู้การประหยัดเงิน
7) มีความคิดเป็นของตัวเอง แล้วสร้างมันให้เป็นรูปแบบเฉพาะ และสร้างมันให้เป็นนวัตกรรม
😎 สื่อสารกับคนอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
9) มีจิตใจที่มั่นคง ซื่อสัตย์กับตัวเอง
.
กฎการเทรด 23 ข้อ
ที่จะช่วยให้คุณกลายเป็นนักเทรดหุ้นที่ดีขึ้น
โดยปู่ William J. O’Neil
.
1. อย่าซื้อหุ้นราคาถูกๆ เพราะหุ้นของผู้นำในอุตสาหกรรมจะไม่ถูกซื้อขายในราคาต่ำๆ
.
2. ซื้อหุ้นที่มี EPS โตอย่างน้อย 25% มาร่วมสามปี แล้วปีต่อไปก็ถูกคาดหมายว่าจะโตได้อีก 25%
และควรมี annual cash flow 20% หรือมากกว่า
.
3. มองหาหุ้นที่มี EPS โต 25% ถึง 30% ในสามไตรมาสล่าสุด
ส่วนในตลาดขาขึ้น ให้มองหาหุ้นที่ EPS โต 40% ถึง 500% (ยิ่งมากยิ่งดี)
.
4. ดูยอดขายสามไตรมาสล่าสุดว่ามันมีการโตเป็นอัตราเร่ง
หรือไตรมาสล่าสุดมันโตอย่างน้อย 25%
.
5. ซื้อหุ้นที่ ROE มากกว่าหรือเท่ากับ 17%
แต่จะให้ดีมากๆ หากทำได้ 25% ถึง 50%
.
6. ดูให้แน่ว่ากำไรหลังหักภาษี-เพิ่มขึ้น และไกล้ๆกับจุดสูงสุด
.
7. หุ้นที่ซื้อส่วนใหญ่ควรอยู่ในระดับท็อป 5 หรือ 6 ของอุตสาหกรรม
.
8. อย่าซื้อหุ้นเพราะปันผลดีหรือ P/E
แต่ให้ซื้อเพราะมันเป็นอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมโดยเฉพาะในเรื่องของการเติบโตของยอดขายและกำไร, ROE, ส่วนต่างกำไร และผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่า
.
9. ซื้อหุ้นที่มี relative strength ตั้งแต่ 85 ขึ้นไป
.
10. วอลุ่มการซื้อขายของหุ้นนั้ต้องมีค่าเฉลี่ยอย่างน้อยๆแสนหุ้นต่อวัน
.
11. เรียนรู้การอ่านกราฟโดยเน้นไปที่การสร้างฐานราคาและจุดซื้อที่ถูกต้อง
ใช้กราฟรายวันและสัปดาห์เพื่อหาหุ้น
ซื้อหุ้นที่ราคา breakout ออกจากฐานที่สมบูรณ์ ด้วยวอลุ่มในวันมากกว่าก่อนหน้านั้น อย่างน้อย 50%
.
12. ซื้อถัวเฉลี่ยขาขึ้นเท่านั้น และรีบตัดขาดทุนอย่าให้เกิน 7-8% โดยไม่มีข้อแม้
.
13. เขียนกฎการเทรดออกมา ว่าจะซื้อและขายตอนไหน
และต้องทำตามนั้นอย่างไม่มีข้อแม้
.
14. ให้แน่ใจว่ามีกองทุนที่ผลงานดีอย่างน้อยหนึ่งหรือสองกองเข้าซื้อหุ้นตัวนั้นในช่วงไม่กี่ไตรมาสที่ผ่านมา
.
15. ธุรกิจของหุ้นตัวนั้นต้องมีสินค้าหรือบริการตัวใหม่ที่ขายดีมากๆ
และควรมีตลาดที่ใหญ่พอต่อการขายหรือบริการซ้ำ
.
16. มั่นใจว่าตลาดทั่วไปควรเป็นขาขึ้น และทั้งหุ้นขนาดเล็กและใหญ่ก็ขึ้น
.
17. หุ้นควรถูกถือครองโดยนักจัดการชั้นยอดจำนวนมากๆ
.
18. มองหาบริษัทมีอนาคตก้าวหน้าที่สร้างจากคนรุ่นใหม่
มากกว่าบริษัทล้าหลังที่บริหารโดยคนรุ่นเก่า
.
19.ลืมอีโก้หรือเกียรติประวัติของคุณซะ
ตลาดมันไม่รู้จักและไม่แคร์พวกนี้หรอก
ไม่ว่าก่อนหน้านี้คุณจะเก่งแค่ไหน,ตลาดก็จะเก่งกว่าคุณ
IQ สูงหรือปริญญาสูงแค่ไหนก็ไม่ได้การันตีความสำเร็จในตลาดหุ้น ยิ่งอีโก้มากก็จะทำให้เสียเงินมาก
ดังนั้นอย่าทะเลาะกับตลาด และอย่าพยายามพิสูจน์ว่าตลาดผิดและตัวเองถูก เพราะยิ่งพยายามคุณจะยิ่งเสียเงิน
.
20.เฝ้าดูบริษัทที่มีการประกาศซื้อหุ้นคืน 5-10% หรือมากกว่านั้น หาให้เจอว่ามันมีการจัดการบริษัทใหม่และมาจากไหน
.
21. อย่าซื้อหุ้นที่จุดต่ำสุด หรือระหว่างขาลง อย่าถัวเฉลี่ยขาลง
.
22. ถ้ามีข่าวร้ายออกมาแต่ตลาดยังเฉยๆ คุณก็ไม่ควรตกใจ ให้มองในแง่ดี เพราะมันบ่งบอกว่าตลาดยังแข็งแรงกว่าที่ใครๆคิด
ในทางกลับกัน,หากมีข่าวดีมากๆออกมา-แต่ตลาดกลับย่อตัว ให้ระวัง เพราะเป็นสัญญาณบอกว่าตลาดมันอ่อนแอกว่าที่ใครๆคิด
.
23. 37% ของการเคลื่อนไหวราคาหุ้นผูกติดกับผลประกอบการของอุตสาหกรรมนั้น ส่วนอีก 12% นั้นขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของภาพรวม
ดังนั้น,ครึ่งหนึ่งของการขึ้นมาจากความแข็งแรงของกลุ่มอุตสาหกรรมนั้น
.
“โชคลาภเกิดขึ้นทุกปีกับผู้ที่ใช้เวลาในการเรียนรู้การตีความกราฟราคาอย่างถูกต้อง มืออาชีพที่ไม่ใช้ประโยชน์จากกราฟราคากำลังสารภาพว่าเขาไม่รู้จักเครื่องมือวัดและจับจังหวะ(ตลาด)ที่มีประสิทธิภาพสูง”
Facebook Comments